โธ่ลูกเอ๊ย!! ด.ญ.วัย 13 เล่านาทีชีวิต โดนยิงกระสุนเฉียดกะโหลกจนสลบ ก่อนทำสิ่งนี้ด้วยความกลัวจนตัวสั่น !!

loading...  จากกรณีการสังหารโหด 8 ศพ ครอบครัวของ ผู้ใหญ่บ้าน นายวรยุทธ สังหลัง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นคด...

loading...
 จากกรณีการสังหารโหด 8 ศพ ครอบครัวของ ผู้ใหญ่บ้าน นายวรยุทธ สังหลัง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ถูกพูดถึงทั่วประเทศ คดีนี้มีผู้รอดชีวิต 4 ราย
 ล่าสุด เฟซบุ๊ก Hathairat Phaholtap ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของ “น้องมูนา” วัย 13 ปี 1 ใน 4 ผู้รอดชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ปัจจุบันยังต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวจนไม่กล้ากลับไปอยู่บ้านเดิม

โดย Hathairat Phaholtap เล่าเรื่องราวระบุว่า
"น้องมูนา" เป็น 1ใน 4 ของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์สังหารโหด 8 ศพ ในบ้านของผู้ใหญ่ "วรยุทธ สังหลัง" อ.อ่าวลึก จ.กระบี่

ด้วยวัยเพียง 13 ปี แต่หัวใจเด็กหญิงแกร่งเกินกว่าวัย

เธอเล่าประสบการณ์การเอาตัวรอดในค่ำคืนวันที่ 10 กรกฎาคมว่า พอคนร้ายที่ปิดบังใบหน้ายิงเพื่อนของเธอแล้วก็ลงมือยิงเธอ แต่ตอนนั้นเธอใช้มือปิดแนบหูทั้งสองข้าง กระสุนจึงผ่านผ่ามือก่อนจะถึงกระโหลกของเธอ

ทว่าแรงกระสุน 2 นัดก็ทำให้เธอสลบไป

พอฟื้นคืนสติ เธอก็ยังคงนอนรอฟังว่า คนร้ายออกไปจากบ้านหรือยัง

กระทั่งมั่นใจว่า เสียงรถคนคันสุดท้ายจากไป เธอจึงวิ่งมาส่องดูที่กระจกหน้าบ้าน

แม้ตอนนั้นจะตกใจ เพราะเห็นญาติพี่น้องนอนจมกองเลือดถึง 10 คน แต่เธอก็ยังมีสติ

หลังจากมั่นใจว่า คนแปลกหน้าหัวใจโหดจากไป เธอก็ควานหาโทรศัพท์ที่ตอนนั้นโทรศัพท์ของเธอแบตเตอร์รี่หมด แต่ท้ายสุดก็เจอโทรศัพท์หน้าทีวีของใครสักคน

เธอจำเบอร์ย่าได้จึงโทรบอกว่า "มาช่วยหน่อย ถูกยิงกันหมดแล้ว"

ตอนนั้นเป็นเวลาหลังเที่ยงคืน คนปลายสายไม่แน่ใจว่า เธอพูดเรื่องจริง แต่ก็ปลุกคนในบ้านมาหาหลานที่บอกว่า "ตัวเองก็ถูกยิง"

"มูนา" ถูกยิง 2 นัดเข้าที่ศรีษะซีกขวา ต้องผ่าตัดเอากระสุนออก แต่บางส่วนของกระสุนที่ติดอยู่ส่วนอันตรายก็ยังไม่สามารถเอาออกได้ บาดแผลครั้งนี้ต้องเย็บถึง 26 เข็ม

แม้กระสุน 2 นัด จะไม่ได้ปลิดชีพเด็กหญิงที่กำลังเติบโต แต่ภาพหลอนจากเหตุการณ์เลวร้ายก็ยังคงฝังใจ

ทุกคืนเธอจึงข่มตาหลับไม่ลง หรือหลับไปก็ยังคงฝันร้ายวนมาซ้ำๆ

เด็กสาวกำลังเติบใหญ่เข้าสู่วัยแรกแย้ม แต่ต้องมาเผชิญชะตากรรมที่ตัวเองไม่เคยรับรู้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

หลังเกิดเหตุเธอจึงต้องหยุดเรียนเพื่อเข้ารับการผ่าตัด พร้อมกับรักษาบาดแผล ทั้งภายนอกและในจิตใจ

ก่อนจะกลับเข้าสู่รั้วโรงเรียนอีกครั้งในเทอมหน้า

ระหว่างที่เราคุยกับเธอ เราแทบไม่เห็น น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลบ่า

แสดงให้เห็นว่า จิตใจเธอแข็งแกร่งกว่าวันวัยอย่างเห็นได้ชัด

แต่ความหวาดกลัวจากการสูญเสียหัวหน้าครอบครัว ทั้งการถูกทำร้ายปางตายยกครัว ทั้งแม่ น้องสาววัย 4 ขวบ และ เธอที่เป็นผู้รอดชีวิตจึงไม่กล้ากลับไปอยู่บ้านหลังเดิม

แม้จะไม่ใช่บ้านหลังที่เกิดเหตุ แต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ทำให้พวกเธอไม่กล้ากลับไป เพราะบ้านค่อนข้างเปลี่ยว

เธอและแม่จึงอยากสร้างบ้านหลังใหม่เล็กๆ ใกล้ๆ บ้านปู่ย่า เพราะอย่างน้อยหากเกิดอะไรขึ้นยังมีคนช่วยปกป้องคุ้มครอง

ชมภาพ

ข้อมูลจาก Hathairat Phaholtap





from:https://www.siamnews.com/view-4522.html

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images