International News
“แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต!” เรื่องจริงเกี่ยวกับ “แม่” ที่ทุกคนต้องอ่าน!! แม่โกหกผม 8 ครั้งในชีวิต!
August 21, 2017
loading...
1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็กๆ ผมเกิดในครอบครัวยากจน ครอบครัวของเราจนมากจนต้องอดข้าวบ่อยๆ เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อถึงเวลากินข้าว แม่จะแบ่งข้าวมาให้ผมเพิ่มขึ้นอีก พร้อมทั้งพูดว่า “ลูกต้องกินข้าวเพิ่มขึ้นนะ ส่วนแม่ไม่ค่อยหิว” นี้เป็นครั้งแรกที่แม่โกหกผม2. เมื่อผมเติบโตขึ้น คุณแม่เพียรพยายามหาเวลาว่างไปตกปลาในแม่น้ำ เพื่อว่าผมจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของผม แม่ต้มปลาที่ตกมาได้ทำเป็นซุปให้ผมกิน ในขณะที่ผมกินแกงต้มปลา..แม่จะนั่งข้างๆ ผมแทะกิน เศษเนื้อปลาที่ติดอยู่ตามก้างปลาหลังจากที่ผมไ ด้กินเนื้อปลาไปแล้ว ผมรู้สึกตื้นตันใจมาก..ผมพยายามแบ่งเนื้อปลาให้แม่ แต่แม่ปฎิเสธทันควันพร้อมกับกล่าวว่า “ลูกกินเถอะ…แม่ไม่ค่อยชอบกินเนื้อปลา” นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่แม่โกหกผม
3. เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นมัธยม เราต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น แม่ต้องหารายได้พิเศษด้วยการรับงานเล็กๆ น้อยจากโรงงานมาทำที่บ้าน บางครั้งผมตื่นขึ้นมาตอนตี 1 หรือตี 2…ผมยังเห็นแม่กำลังทำงาน ” แม่ครับ…นอนเถอะครับมันดึกมากแล้วพรุ่งนี้แม่ต้องไปทำงานอีก” แม่ยิ้มกับผมพูดว่า “ลูกนอนต่อก่อนนะ…แม่ยังไม่เหนื่อย…นอนไม่หลับ” ครั้งที่ 3 แล้วที่แม่โกหกผม
4. ตอนเมื่อใกล้จบชั้นมัธยมผมต้องไปสอบเป็นวันสุดท้าย แม่อุตส่าห์หยุดงานไปเป็นเพื่อนและเพื่อเป็นกำลังใจให้ผม มันเป็นวันที่แดดร้อนมากๆ…แม่ต้องรอผมอยู่หลายชม. เมื่อผมทำข้อสอบเสร็จ…รีบออกมาหาแม่ เห็นแม่ผมมีเหงื่อออกท่วมตัว.. แต่ท่านกลับรินน้ำเย็นที่เตรียมมาให้ผมดื่ม ผมเห็นแม่รู้สึกเหนื่อยและร้อนจึงขอให้แม่ดื่มน้ำก่อน แม่พูดขึ้นว่า “ลูกดื่มเถอะ….แม่ยังไม่กระหายน้ำ” นั่นเป็นครั้งที่ 4 ที่แม่โกหกผม

6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง แต่แม่ไม่ยอม…..กลับไปตลาดทุกเช้า ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้งๆ ที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่ (ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล) แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคืนให้ผมอีก แม่พูดกับผมว่า “แม่มีเงินพอใช้แล้ว…ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ” แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า.. ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในอเมริกา เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง เมื่อทำงานไปได้สักพัก…ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน…พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม…บอกผมว่า “แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน” ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อยๆ.. ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัด ที่โรงพยาบาล ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโทรมลงอย่างมาก แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม….พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ “ลูกรักของแม่…เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว” นี่เป็นครั้งที่ 8
ที่แม่โกหกผม และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม แม่ที่ผมรักและบูชามาตลอดชีวิตได้ปิดตาลงและจากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่เธอกล่าวคำโกหกครั้งที่ 8 จบลง
เมื่ออ่านจบแล้ว อยากถามคุณหน่อยว่า ได้ทำอะไรเพื่อแม่รึยัง?
คุณคิดว่าจะมีเวลาให้คุณได้โอบกอดแม่อีกกี่ปี ? คุณจะเริ่มดูแลท่านตั้งแต่วันนี้..หรือคุณจะรอให้ถึงวันที่คุณไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้มอง ได้เห็น หรือแม้กระทั่งได้เอ่ยคำว่ารักเบาๆให้ท่านได้ฟัง.. วันแม่ฉันเชื่อว่าแม่ทุกคนไม่ได้ต้องการของขวัญราคาแพงๆ หรือต้องการอะไรจากลูกๆเลย นอกจากความรักและความเอาใจใส่จากลูกที่พวกเค้ายังคงห่วงใยตั้งแต่เล็กจนโตเท่านั้นเอง มันอาจเป็นเรื่องอยากที่จะแสดงออก แต่ฉันหวังว่าหลังจากที่ทุกคนได้อ่านบทความนี้ คนที่อยู่ใกล้แม่จะรีบเดินไปโอบกอดและบอกรักแก่ท่าน คนที่อยู่ไกลจะรับโทรหาเพื่อแสดงถึงความห่วงใยและบอกรักแก่ท่าน.. อย่ารอให้ถึงเวลาที่คุณไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ยินเสียง.. อย่ารอจนถึงวันนั้น..

from:https://www.loveisan.com/2017/
0 comments