เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 60 นายทวี ภูมิสิงหราช อดีต ส.ว.พัทลุง นายฐิติพงษ์ ศิลปะสมศักดิ์ นายชม หนูพริก ไวยาวัจกร และประธานคณะกรรมการวัดประดู่หอม อ.เมืองพัทลุง ได้อุ้มพระครูธรรมโฆษ อายุ 87 ปี เจ้าอาวาสวัดประดู่หอม ซึ่งอาพาธเป็นอัมพฤกษ์ ไปยังธนาคารกรุงไทย เขตเทศบาลเมืองพัทลุง เพื่อขอถอนเงินของวัด ไปชำระหนี้สินค่าวัสดุจำนวนหนึ่งแก่ร้านวัสดุแห่งหนึ่ง ซึ่งทางวัดไปซื้อมาเพื่อปรับปรุง ซ่อมแซม และปฏิสังขรณ์วัดในก่อนหน้านี้
 นายฐิติพงษ์ฯ กล่าวว่า ทางวัดเป็นหนี้สินค่าวัสดุในการปรับปรุงวัดจำนวนหนึ่ง จึงเดินทางไปพบกับผู้จัดการของธนาคารดังกล่าวเมื่อประมาณต้นเดือนนี้ เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ทางธนาคารจัดส่งเจ้าหน้าที่ธนาคารผู้ชาย เดินทางมาพิมพ์ลายชื่อเจ้าอาวาสเพื่อขอถอนเงิน เหมือนกับการขอความอนุเคราะห์จากผู้จัดการธนาคารคนก่อนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ทางผู้จัดการธนาคารคนใหม่ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ ได้แนะนำให้ตนไปขอใบรับรองแพทย์มายืนยันการอาพาธ ตนจึงเดินทางไปยังศูนย์แพทย์ผดุงดอนยอเพื่อขอใบรับรองแพทย์ ซึ่งทางแพทย์ได้ออกใบรับรองให้เมื่อวันที่ 9 ส.ค.60
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนและนายชม ได้นำใบรับรองแพทย์ดังกล่าวไปยืนยันกับผู้จัดการธนาคารดังกล่าวอีกครั้ง ทางผู้จัดการฯ ก็ได้ปฏิเสธการถอนเงินของวัด และได้แนะนำว่าให้ไปขอใบรับรองแพทย์ใหม่ โดยให้ระบุในใบรับรองแพทย์ว่า "ไม่มีสติสัมปชัญญะ"

เมื่อพวกตนไปขอใบรับรองแพทย์จากนายแพทย์รายหนึ่งที่เปิดคลินิกส่วนตัวอยู่ใกล้วัด และทราบอาการอาพาธของเจ้าอาวาสเป็นอย่างดี แต่นายแพทย์รายนี้บอกว่าไม่สามารถออกให้ได้ เพราะหากระบุในใบรับรองแพทย์ว่า "ไม่มีสติสัมปชัญญะ" ก็ไม่สามารถที่จะถอนเงินของวัดได้

ทั้งนี้ ตนจึงแจ้งให้นายทวี ทราบ และช่วยกันอุ้มร่างพระธรรมโฆษ ไปพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อขอถอนเงิน จำนวน 649,146 บาท และปิดบัญชีไปในที่สุด หลังจากนี้ก็จะไปเปิดบัญชีกับธนาคารแห่งใหม่ต่อไป

นายฐิติ กล่าวอีกว่า เมื่อปีที่ผ่านมาทางคณะกรรมการวัดไปก่อหนี้ผูกพันการจัดซื้อวัสดุกับร้านค้าแห่งหนึ่งที่เจ้าของร้านมีความสนิทกับผู้จัดการธนาคารคนดังกล่าว ซึ่งพวกตนได้นำบัญชีของวัดให้กับทางร้านได้ดู ซึ่งปรากฏว่าทางธนาคารดังกล่าวได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาพิมพ์ลายมือการเบิกถอนเงินถึงวัด แต่ครั้งนี้กลับไม่ให้การอนุเคราะห์ใดๆ ทั้งๆ ที่ทางวัดได้ใช้บริการจากธนาคารดังกล่าวมาโดยตลอด
นายทวี กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับทราบข่าวจากนายฐิติพงษ์ ตนรู้สึกผิดหวังในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้จัดการรายนี้ ภาพการอุ้มเจ้าอาวาสที่อาพาธเดินไม่ได้ไปพิมพ์ลายมือเพื่อถอนเงินของวัดในครั้งนี้ ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวบ้านเป็นอย่างมาก และคงสร้างภาพลักษณ์เสียหายให้กับธนาคารอย่างแน่นอน ซึ่งตนก็ไม่เคยเห็นการอุ้มพระอาพาธขึ้นมาถอนเงินแบบนี้เลย
ธนาคารกรุงไทย ร่อนชี้แจง

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทย ได้ทำหนังสือชี้แจงสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมา ทางวัดได้ติดต่อขอถอนเงินเพื่อนำไปจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง ซึ่งธนาคารได้อนุโลมโดยส่งเจ้าหน้าที่ไปที่วัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าอาวาสพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ตามจำนวนเงินที่วัดต้องจ่าย แทนการเบิกเงินสด และได้ให้คำแนะนำทางวัดแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อดำเนินการแทนเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ซึ่งอาพาธเพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงิน แต่ทางวัดยังมิได้ดำเนินการใดๆ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่วัดยังได้มาติดต่อขอถอนเงินสดบางส่วนอีก 2 ครั้ง ซึ่งธนาคารได้แนะนำให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การถอนเงินเพื่อประโยชน์ของทางวัด และในวันที่ 18 ส.ค.60 เจ้าหน้าที่วัดได้อุ้มเจ้าอาวาสมาที่สาขา เพื่อขอถอนเงินและปิดบัญชี โดยไม่ได้แจ้งให้ธนาคารทราบล่วงหน้าเพื่ออำนวยความสะดวก อย่างไรก็ตาม ธนาคารก็ได้ดำเนินการถอนเงินและปิดบัญชีให้กับทางวัด ตามความประสงค์เรียบร้อยแล้ว






from:https://www.siamnews.com/view-4491.html