ต้องบอกว่าหลายคนลดน้ำหนักจนประสบผลสำเร็จสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจนเป็นที่พอใจ หรือบางคนน้ำหนักตัวลดลงเยอะจนทำให้เกิดผิวหนังเหี่ยวย่น วันนี้คุณ พบ ธนพัฒน์ ได้แชร์เรื่องราวของตัวเองที่ไปผ่าตัดผิวหนังเหี่ยวยนจนเปลี่ยนไปเหมือนเป็นคนใหม่

 ยังจำเรื่องราวของคุณ พบ ธนพัฒน์ เตชะกัญญา หนุ่มหน้าใสจากสระบุรี ได้ไหมครับ ที่เขาเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทุ่มเงิน 8 แสน ตัดกระเพาะอาหาร โดยเล่าว่า ตัวเองอ้วนมาตั้งแต่จำความได้ แต่ที่หนักมากที่สุดคือเมื่อตอนอายุ 23 น้ำหนักมากถึง 155 กก. รอบเอว 60 นิ้ว ตอนนั้น เขาเล่าว่า ชีวิตลำบากมากจะเดิน จะกิน จะนอน ก็เหนื่อยหมด ขนาดหายใจยังเหนื่อยเลย นอนหงายไม่ได้ ต้องนอนตะแคงและนอนคว่ำ เท่านั้น
 สำหรับความอ้วนเขายอมรับว่ามาจากพฤติกรรมการกิน เพราะเป็นชอบกินหลากหลาย พอกินไม่หมดก็เสียดาย ต้องกินให้หมด ขนมก็กิน กินจุกจิก จนถึงจุดหนึ่งที่เขาคิดว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรถ้าปล่อยให้ร่างกายเป็นแบบนี้ ตอนนั้นเขาใช้สารพัดวิธีทั้งกินยาลดน้ำหนัก ซึ่งเข้าบอกว่าผลข้างเคียงถึงขั้นประสาทหลอนจนต้องพบจิตแพทย์ วิ่งออกกำลังกายก็ไม่ค่อยไหวเพราะน้ำหนักตัวมาก จนในที่สุดเข้าลองปรึกษาครอบครัวเกี่ยวกับการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหาร ซึ่งครอบครัวก็ให้ลองไปปรึกษาคุณหมอดู ตอนนั้นคุณหมอให้กลับมาคิด 3 เดือนเนื่องจากหากผ่าตัดแล้วจะแก้ไขไม่ได้ และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส เขาเล่าว่าถึงแม้จะผ่าตัดเสร็จสิ้นแต่ก็ยังคงต้องกลับมาดูแลตัวเอง ทั้งการกินและการออกกำลังกายเพื่อไม่ให้ร่างกายกลับไปเป็นแบบเดิมอีก ส่วนสนนราคาก็อยู่ที่ 8 แสนบาท
เชื่อว่าหลายคนที่ได้อ่านเรื่องราวของหนุ่มคนนี้คงจะเกิดความสงสัยว่า น้ำหนักตัวที่ลงไปเยอะขนาดนั้นทำให้เกิดผิวหนังเหี่ียวย่นหรือไม่ วันนี้หนุ่มคนนี้ได้เขียนเล่าเรื่องราวของตัวเองอีกครั้ง โดยบอกว่า หลังจากน้ำหนักลดจาก 155 ลงมาเหลือ 67 กิโลกรัม ผิวหนังเหี่ยวไปหมด


หนังส่วนเกินเยอะมาก เขาจึงหาข้อมูลเพื่อจะทำให้สิ่งนี้หายไป ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดคือการผ่าตัดเอาออกโดยตัดไขมันหน้าท้องแล้วเย็บใหม่ เขาบอกว่าเขาตัดสินใจผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินออกทั้งตัว พร้อมเสริมกล้ามหน้าอกไปด้วย สำหรับเวลาในการผ่าตัดทั้งหมด 10-12 ชั่วโมง เพราะต้องย้ายสะดือใหม่ด้วย ส่วนสนนราคาตัดหนังส่วนเกินทั้งตัวประมาณ 3 แสน ส่วนกล้ามหน้าอก 1 แสน 7 หมื่นบาท

สุดท้ายสำหรับหนุ่มคนไหนอยากใช้วิธีนี้ก็ต้องปรึกษาแพทย์และศึกษารายละเอียดให้มากที่สุดนะครับ




from:http://www.siamnews.com/view-3812.html