หลังจากสิ้นเกจิดังต้นตำรับกุมารทอง ‘พระครูประยุตนวการ’ หรือ‘หลวงปู่แย้ม ฐานยุตโต’ เจ้าอาวาสวัดอรัญญิการาม หรือวัดสามง่าม ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม พระเกจิชื่อดัง ศิษย์เอกหลวงพ่อเต๋ คงทอง ที่มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อเวลา 06.40 น. วันอาทิตย์ที่ 27 ส.ค.60 ที่โรงพยาบาลธนบุรี 1 กทม. สิริอายุรวม 102 ปี 7 เดือน 79 พรรษา โดยศิษยานุศิษย์ของจ.นครปฐมและเขตใกล้เคียงรู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก
 ศิษย์นับพันรับสังขาร
สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.29 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่วัดอรัญญิการาม หรือวัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง นายอำเภอดอนตูม นายสมรักษ์ มีใจดี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามง่าม พ.ต.ท.อำพล ภัทรมงคลกุล พ.ต.ท.ศักดาวุธ อภิรติวาณิชย์ รองผกก.สภ.ดอนตูม บรรดาศิษยานุศิษย์ ประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้าน ที่ต่างเลื่อมใสศรัทธาในหลวงปู่แย้ม เดินทางมาตั้งขบวนรับสังขารที่เคลื่อนมาจากโรงพยาบาลธนบุรี 1 กทม. โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนวัดสามง่ามคงทองอนุสรณ์และโรงเรียนคงทองวิทยา ตั้งขบวนแถวรอรับกว่า 1,500 คน เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร

สำหรับสังขารหลวงพ่อแย้มได้เคลื่อนย้ายออกจากโรงพยาบาล ธนบุรี 1 กทม.ตั้งแต่เมื่อเวลา 09.00 น. โดยรถตู้โรงพยาบาลยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮค 2842 กทม. มีรถตำรวจทางหลวงและรถมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม เป็นรถนำอำนวยความสะดวกโดยใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนีมุ่งหน้าเข้าอ.เมืองนครปฐม มาจนถึงวัด พร้อมกันนี้ได้ช่วยกันนำสังขารหลวงพ่อแย้มขึ้นสู่ศาลาประยุตนวการ เพื่อเปลี่ยนจีวรชุดใหม่ โดยมีโลงแก้วขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหลังประดับประดาไปด้วยดอกไม้สวยงาม จากนั้นเวลา 13.00 น.เปิดให้ประชาชนและศิษยานุศิษย์เข้าร่วมรดน้ำศพเเละกราบลาหวงพ่อแย้มเป็นครั้งสุดท้าย จนถึงเวลา 16.00 น.
ส่วนในช่วงเย็นเวลา 16.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าพระราชทานให้ผู้แทนจากสำนักพระราชวัง อัญเชิญน้ำหลวงอาบศพพระราชทานมาถึงศาลาประยุตนวการ เพื่อประกอบพิธีรดน้ำหลวงอาบศพพระราชทานและประกอบพิธีบรรจุศพลงหีบศพ จากนั้นพระสงฆ์สวดพระอภิธรรม 1 จบ จนกระทั่ง 19.00 น. พระมหาเจิยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรม โดยกำหนดสวดพระอภิธรรมรวม 32 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. ถึง 30 ก.ย.60 จากนั้นจะสวดพระอภิธรรมเดือนละ 2 ครั้งในวันพระใหญ่ เป็นเวลานาน 3 ปี หลังจากนั้นคณะกรรมการจะทำการประชุมเพื่อรอกำหนดการพระราชทานเพลิง








from:https://www.siamnews.com/view-5135.html