ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปูน2 ชั้น โดยพบศพ นางคำพล พันสว่าง อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงของมีคมปาดที่ลำคอเป็นแผลยาว และที่ตาด้านขวามีร่องรอยถูกแงะจนตาทะลักออกมาข้างนอก ที่ศีรษะมีบาดแผลถูกฟันเป็นแผลฉกรรจ์ ซึ่งมีมีดทำครัวมีรอยคราบเลือดตกอยู่ 1 เล่ม โดยแพทย์ชันสูตรพลิก ระบุเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-9 ชั่วโมง  จากการสอบถาม นางนุช ปันทุมมา อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 10 บ้านไผ่ล้อม ที่เป็นเพื่อนบ้าน ให้การว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ตายได้บอกกับตนให้มาปลุก ตอนเช้ามืด เพื่อที่จะไปทำบุญที่วัดด้วยกัน ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น.ตนได้เดินทางมาปลุกผู้ตาย โดยร้องเรียกอยู่นานไม่มีเสียงตอบกลับมา ตนจึงกลับไปตามเพื่อนบ้านอีก 2 คนมาช่วยกันปลุก

 หลังจากร้องเรียกอยู่สักพักก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเหมือนเดิม มีเพียงเสียงลูกชายของผู้ตายเท่านั้น จนกระทั่งเวลา 05.00 น.จึงได้พากันพังประตูบ้านเข้าไปและพบนางคำพลกลายเป็นศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ดังกล่าว
 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าควบคุมตัว นายสมพงษ์ พันสว่าง อายุ 39 ปี ลูกชายของผู้ตาย ที่หลบอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ นำตัวมาทำการสอบสวน และให้การวกวนในตอนแรก ต่อมาได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าแม่ของตัวเอง สาเหตุเนื่องจากแม่ชอบบ่นทำให้ตนหงุดหงิด จึงได้ก่อเหตุฆ่าแม่ของตน
 ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ทราบข่าว ได้มามุงดู เหตุการณ์บอกว่าเมื่อคืนนี้เวลา 22.00 น ที่ผ่านมา นายสมพงษ์ได้เดินร้องไห้ไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน ว่าแม่ตนเองถูกทำร้าย แต่ไม่มีใครฟังหรือเชื่อ เนื่องจากนายสมพงษ์ มีอาการทางประสาท จนกระทั่งมาพบว่า นางคำพล ถูกฆ่าตาย ภายในบ้าน ถึงทราบว่าที่นายสมพงษ์ไปบอกคือเรื่องจริง และเป็นคนที่ฆ่าแม่ตนเองจนเสียชีวิต
ทางด้าน พ.ต.ต.วิเศษ เบี้ยวโกฏิ สารวัตรสอบสวน เผยว่า ผู้ตายอยู่บ้านหลังนี้กับลูกชายเพียงสองคน ซึ่งลูกชายมีบัตรรักษาเป็นผู้ป่วยโรคทางประสาท แต่ก็ให้การรู้เรื่องบ้าง เป็นไปได้ว่าโดนแม่ด่าแล้วเกิดการเครียดทำให้โรคกำเริบขึ้นมา ซึ่งก็ยอมรับว่าตนเองเป็นคนลงมือฆ่าแม่ของตนเอง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด แล้วควบคุมตัว นายสมพงษ์ ไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป





from:https://www.loveisan.com