กระจ่าง! ไขข้อข้องใจ ทำไม "สักหน้าห้ามบวช" ฟังกันไว้ เหตุผลที่โบราณจารย์กล่าวเตือนผู้ที่คิดจะสัก!!

loading...  กลายเป็นประเด็นที่ทำให้โซเชียลประหลาดใจไปตามๆกัน สำหรับกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่ตัวเขานั้น ชื่...

loading...
 กลายเป็นประเด็นที่ทำให้โซเชียลประหลาดใจไปตามๆกัน สำหรับกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่ตัวเขานั้น ชื่นชอบในการสัก และมีรอยสักตั้งแต่ศรีษะ ใบหน้า และแขน เจ้าตัวนั้นตัดสินใจไปขอบวชแต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากทางเจ้าขณะอำเภอไม่ให้บวช โดยแจ้งว่าคนสักลายที่หน้าบวชไม่ใด้
 โดยเรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่จากสมาชิกเฟซบุ๊ก อ.ท๊อป ป.หางยาว ได้มีการโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า”คนบาปครับ เจ้าขณะอำเภอ ท่านไม่ให้บวชครับ. คนสักลายที่หน้าบวชไม่ใด้ผมตั้งใจบวช เปงคนดีไม่ใด้จิงๆหรอ ช่วยแชร์หน่อยครับ”
 และต่อมาก็โพสต์ข้อความระบุว่า”ไม่เข้าใจพระสงต้องการให้คนเราเปงแบบไหน คนเลวๆอย่างผมต้องการถือธรรมเปงคนดี ห่มผ้าเหลือ แต่คำพุดดูถุกเหยีดหยามผมมาก ผมแค่สักลาย ทำไมไม่มองที่ใจผม ผมบ่นไว้ว่าจะบวชวัดนี้ สิ่งที่ขอผมก็ใด้มาแล้ว บวชไม่ใด้แค่บวช เณร สำหลังความคิดผมนะ พระที่มียศสูงๆน่าจะให้โอกาส โยมนะ พุดกะผมมองผมเหมื่อนผมน่ารังเกรียดมากเลย ช้วยแชรหน่อยครับ เจ้าคณะอำเภอ คลองหลวง ไม่ให้บวชพุดดีๆก็ใด้ ผมไม่ใช่หมา. แชร์ด้วยครับ” ทั้งนี้ชาวเน็ตก็ต่างเข้ามาวิพากย์วจารณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่วเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ เมื่อกระแสดราม่าเรื่องการสักหน้า เริ่มเป็นที่วิพากย์กันจนเป็นประเด็นร้อน ทางทีมข่าวจึงได้หยิบยก ความคิดเห็นของ คุณModerators ที่ได้กล่าวไว้บนโลกโซเชียลมาฝาก ดังนี้

รอยสักไทยมีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย ตามความเชื่อว่า การสักยันต์บนร่างกายของชายไทยในยุคนั้น ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากศาสตราวุธ อยู่ยงคงกะพัน ความเชื่อดังกล่าวถูกถ่ายทอดมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันภาพลักษณ์ของผู้ที่นิยมสักในสังคมไทยไม่ค่อยได้รับการยอมรับนัก พวกที่นิยมสักตามร่างกายจะถูกมองว่าเป็นนักเลงหัวไม้ หรือโจร อาชญากร สมัยอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เพื่อเป็นการทำเครื่องหมายแสดงหลักฐาน เช่น

- สักข้อมือ แสดงว่าได้ขึ้นทะเบียนเป็นชายฉกรรจ์ หรือเป็นเลขมีสังกัดกรมกองแล้ว
- การสักหน้าเพื่อแสดงว่าเป็นผู้ที่ต้องโทษปาราชิก

ก่อนจะพัฒนานำความเชื่อทางไสยศาสตร์เข้ามารวมไว้ เป็นการสักเพื่อความแข็งแกร่งของจิตใจ และอยู่ยงคงกระพัน

- ปัจจุบันการสักยันต์เสื่อมความนิยมไปมาก เนื่องจากได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากชาวตะวันตก ที่มองผู้ที่มีลายสักว่าส่วนใหญ่มักเป็นพวกขี้เมา คนจรจัด เป็นนักเลง และคนชั้นต่ำ
- ในทางกลับกันระยะหลัง มีดาราระดับโลกนิยมสักตามตัว กลายเป็นแฟชั่นของคอหนังวัยรุ่นขึ้นมา

- ในทางการแพทย์ ผู้มีรอยสัก(Tattoo) โดยเฉพาะรอยสักเกี่ยวกับความรัก หรือรอยสักบริเวณที่ลับ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงของกลุ่มฉีดยาเสพติดเข้าเส้น โรคตับอักเสบเรื้อรัง โรคเอดส์

- คนเมืองมีความรู้สึกว่าลายสักเป็นวัฒนธรรมของคนบ้านนอกคนไม่มีการศึกษา ทำให้ศิลปะบนผิวหนังประเภทนี้เกือบจะสูญไป
- แต่คนบางกลุ่มยังคงความเชื่อดั้งเดิมเอาไว้ เช่น สัญลักษณ์บางอย่างของลายสักสามารถทำหนังเหนียวได้ ศัตรูยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า หรือช่วยให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันเลวร้าย

- ดังนั้นภาพผู้มีรอยสักจึงมักถูกมองว่าเป็นการเสียสมณะสารูป ของผู้เป็นพระแท้ แม้จะไม่มีกฎข้อห้ามในการบวชชัดเจน หรือแม้ จขกท.เป็นผู้มีศรัทธาอันเต็มเปี่ยมก็ตาม

เชื่อว่าพระอาจารย์ท่านห้ามเพราะท่านเล็งผลอันไกล อันเลิศไว้ดีแล้ว เพื่อ

-มิให้ใครตำหนิเราว่าเป็นสมณะที่ไม่น่าเคารพ

-มิให้ใครตำหนิพระอุปัชฌาย์อาจารย์ว่าไม่เข้มงวด

-มิให้ใครตำหนิวัดว่าหย่อนวินัย

-มิให้ใครตำหนิพระพุทธศาสนาว่าที่แท้พุทธกับไสย์ไปด้วยกัน
แต่ไหง หมอนี่ถึงได้บวช เพื่อตัดปัญหากระแสโซเชียล วันนี้สยามนิวส์จึงขออณุญาติยกตัวอย่างที่ผ่านๆมาว่า ทำไท เก่ง ลายพรางถึงบวชได้ แน่นอนครับว่า จะบวชได้หรือไม่ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของอุปชา และเงินในกระเป๋า (อุ๊ฟ).... ยิ่งพูดยิงยาว ถ้าพี่ ท็อป ไม่ดราม่าลงโซเชียล ไปบวชวัดอื่นก็ยังมีโอกาสอยู่นะครับ









from:https://www.siamnews.com/view-5177.html

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images