เตรียมรับมือพายุลูกใหม่!! เตือนภัยฉบับที่ 1 พายุโซนร้อน ทกซูรี เคลื่อนถล่มเกาะไหหลำ เตือนประชาชนติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดที่สุด! (รายละเอียด)

loading...  เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2560 เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 1 พายุโซนร้อน “ทกซูรี” (DOKS...

loading...
 เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 กันยายน 2560 เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 1 พายุโซนร้อน “ทกซูรี” (DOKSURI) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน หรือที่ ละติจูด 14.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 60 พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในระยะ 1-2 วันนี้

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้

ประกาศ ณ วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.00 น.

วันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
สำหรับการพยากรณ์อากาศในช่วง 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2560 - 18 กันยายน 2560 ระบุ การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. ประเทศไทยยังคงมีฝนตกเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนื และภาคตะวันออก
ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 12 - 18 ก.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้ให้ระวังในช่วง 14-18 ก.ย. ระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ในช่วง 14-18 ก.ย. ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา      ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในบริเวณภาคใต้

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ กลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร อนึ่ง พายุดีเปรสชั่นบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ จะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันที่ 13 ก.ย. 2560 และมีแนวโน้มว่าจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แล้วจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน เข้าสู่อ่าวตั่งเกี๋ยและประเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 15-16 ก.ย. 2560 ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปยังบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย พายุนี้ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย
ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม. /ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง    ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก    ในช่วงวันที่ 12 – 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    ในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 -30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 -35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 13 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 - 60 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 14 - 18 ก.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.







from:https://www.siamnews.com/view-6362.html

You Might Also Like

0 comments

Flickr Images