เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 8 ก.ย. นายพรพรต จิตต์รัตนธรรม กำนันตำบลเขาน้อย อ.เขาชะเมา จ.ระยอง รับแจ้งเหตุช้างป่าทำร้ายพระสงฆ์วัดมะเดื่อขณะบิณฑบาตรกลับวัด บริเวณถ.สายมะเดื่อ-เขาน้อย ห่างจากวัดประมาณ 500 เมตร จึงรีบรายงานให้ทางอำเภอเขาชะเมาและพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยเขาชะเมา เดินทางไปตรวจสอบทันที
 ที่เกิดเหตุพบพระสงฆ์ชื่อพระภานุวัฒน์ ฐานุสโร อายุ 24 ปี พระลูกวัดมะเดื่อ สภาพนอนหงายอยู่กับพื้นถนนด้วยอาการตกใจ จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ เบื้องต้นพบบาดเจ็บที่ขาด้านซ้ายจากการถูกช้างเหยียบ เป็นรอยช้ำ รอบข้างพบบาตรตกอยู่และมีรอยเท้าช้างอยู่เต็มพื้น จึงรีบนำพระสงฆ์ที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเขาชะเมา ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้วกระดูกไม่หัก แต่แพทย์เตรียมนำตัวเอกซเรย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยให้พักรักษาที่โรงพยาบาลก่อน
สอบถามพระภานุวัฒน์ กล่าวว่า ขณะที่อาตมาและพระสงฆ์รวม 4 รูป กำลังเดินบิณฑบาตร ถึงที่เกิดเหตุพบโขลงช้างประมาณ 7 ตัว เดินปรี่เข้ามาหา เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงพากันวิ่งหนี แต่ขณะนั้นมีฝนตกลงมาจึงทำให้ถนนลื่นอาตมาจึงเสียหลักล้มลง ส่วนพระสงฆ์ที่เหลือวิ่งหนีไปได้ก่อน ขณะที่พยายามลุกขึ้นปรากฎว่าช้างตัวหนึ่งก็มาอยู่ตรงหน้าและทำท่าเกรี้ยวกราดร้องคำรามเสียงดัง

 และใช้ขาเหยียบลงที่ขาข้างซ้ายบริเวณหน้าแข้งหนึ่งครั้ง ช่วงนั้นรู้สึกเจ็บ ก็ได้แต่ภาวนาขอให้ปลอดภัย จู่ ๆ ช้างตัวดังกล่าวก็เดินเข้าไปในป่าริมถนน จึงรอดตายหวุดหวิด และก็เป็นจังหวะที่พระสงฆ์ได้วิ่งมาช่วยพอดี ทั้งนี้ รู้สึกดีใจที่รอดตายเพราะช้างไม่ได้ทำอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ต้องการให้เจ้าหน้าที่ผลักดันช้างออกนอกพื้นที่ที่อาจจะก่ออันตรายได้
ด้าน นายพรพรต กล่าวว่า ช้างโขลงนี้มี 5-7 ตัว หากินอยู่ในบริเวณนี้มานานแล้ว และพระสงฆ์วัดมะเดื่อก็บิณฑบาตรเจอเป็นประจำก็ไม่เคยถูกทำร้าย สำหรับครั้งนี้อาจเกิดจากช้างตกใจอะไรบางอย่าง จึงปรี่เข้ามาทำร้าย ทั้งที่พระเดินบิณฑบาตรเป็นประจำนับสิบปีก็ไม่เคยถูกทำร้ายเลย หรืออาจจะเกิดจากความเครียดของช้างที่กำลังถูกกดดันผลักดันกลับเข้าป่า
นายณัฐพงศ์ สุขวิสิษฐ์ นายอำเภอเขาชะเมา ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการพระสงฆ์ ที่โรงพยาบาลเขาชะเมา พร้อมมอบเงินให้กับพระสงฆ์จำนวนหนึ่งเพื่อใช้จ่ายในระหว่างรับการรักษา และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยจากโขลงช้างดังกล่าว ซึ่งล่าสุดได้เดินหายเข้าไปในป่าแล้ว

สำหรับปัญหาโขลงช้างป่านับเป็นปัญหาใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะได้ลงมาอาศัยในพื้นที่ชาวบ้าน ทั้งที่เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานพยายามผลักดันเข้าป่าแต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะช้างคุ้นกับการหากินในพื้นที่สวนเกษตรของชาวบ้านแล้ว จึงทำให้ไม่ยอมกลับเข้าป่า เจ้าหน้าที่จึงทำได้แค่เฝ้าระวังและพยายามสร้างแนวกันชนโดยการปลูกพันธุ์ไม้ที่เป็นอาหารช้างไว้ในแนวกันชน เพื่อไม่ให้ช้างออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก




from:https://www.siamnews.com/view-5986.html