International News
มีมาม่าห่อหนึ่งเขากินเส้น ผมกินน้ำ แต่เขาก็ยังอยู่กับผม!! เปิดต้นแบบชีวิตนักสู้ ดูหัวใจสีชมพู พร้อมเล่าทำไมถึงรักผู้หญิงคนนี้!!
September 10, 2017
loading...
จากกรณีศึกมวยโลก รุ่น ซูเปอร์ ฟลายเวต 115ปอนด์ สภามวยโลก (WBC Super Flyweight) ระหว่าง “ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น” เเชมป์โลกชาวไทย ขึ้นชกป้องกันตำเเหน่ง เปิดโอกาสให้ “โรมัน กอนซาเลซ” กำปั้นชาวนิการากัว ชกล้างตารีเเมตช์ ในวันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ณ สังเวียน สตับฮัป เซ็นเตอร์ รัฐเเคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งผลการชก เจ้าเเหลม ชนะน็อคในยกที่ 4 โดยการปล่อยหมัดขวาเข้าเต็มๆ ปลายคางของ โรมัน ส่งลงไปกองกับพื้นให้กรรมการนับ10 และยุติการชก ศรีสะเกษ ป้องกันเข็มขัดเเชมป์ ซูเปอร์ฟลายเวต สภามวยโลก เอาไว้ได้ ยัดเยี่ยมความพ่ายเเพ้เเบบไม่ครบยก ให้“โรมัน กอนซาเลซ” เป็นไฟต์เเรก
“อย่างที่บอกว่าเลือดนักสู้ ไม่ว่าชีวิตจะผกผันแค่ไหน ก็จะผ่านมันไปให้ได้ ช่วงที่ขึ้นมากรุงเทพฯกับแฟนสองคน มีเงินติดตัวอยู่ 500 บาท แล้วผมก็ดันทำตั๋วรถไฟหายอีก ก็บอกแฟนว่าไม่เป็นไร พอนายท่ามาเดินตรวจตั๋ว ก็บอกให้แฟนทำตัวนิ่งๆ ให้เหมือนกับเราตรวจไปแล้ว ก็นั่งรอดมาได้จนถึงหัวลำโพง มีเงินเหลือติดตัวเพียง 20 บาท ขึ้นรถเมล์ไปห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา ตอนนั้นก็หมดเลย ไม่มีเงินติดตัวแล้ว ก็เดินสมัครงานจากห้างเซ็นทรัลบางนาไปถึงสำโรง เดินไปกับแฟนสองคน กะว่าจะไปเป็นพนักงานเสิร์ฟ แต่คนเต็ม ก็ต้องเดินย้อนจากจากสำโรง กลับไปที่ห้างเซนทรัลบางนา แล้วตัดสินใจไปสมัครเป็น รปภ.ที่นั่น”

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 21 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา เจ้าแหลม ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หลังจากสร้างประวัติศาสตร์ คว้าแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวต ของสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) ที่เมดิสันสแควร์ การ์เด้น นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาโดยมี นายเจียมศักดิ์ วังเอก และ นางหนูรัตน์ วังเอก พ่อแม่ของศรีสะเกษ รวมทั้ง พัชรีวรรณ กัณหา แฟนสาว ได้เดินทางมารับ ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับที่อบอุ่น ของแฟนกีฬาชาวไทยและสื่อมวลชนอย่างคับคั่ง โดยในไฟต์ดังกล่าว ศรีสะเกษ โค่น โรมัน กอนซาเลซ นักชกที่ได้รับฉายา มวยอันดับหนึ่ง หากเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะคะแนน แบบเสียงส่วนใหญ่ ด้วยคะแนน 114-112 (กรรมการสองคน) และ 113-113 (กรรมการหนึ่งคน)

from:https://www.siamnews.com/view-6193.html
0 comments