สำหรับบางคน การดื่มเครื่องดื่มชูกำลังนั้นถือว่าเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้มีแรงทำงานและตื่นตัวรับสถานการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวันได้ แต่น้อยมากที่จะนึกถึงผลกระทบต่อร่างกายหากดื่มเป็นประจำในปริมาณที่มากเกินพอดี

และนี้คือเรื่องราวของชายหนุ่มนาม Austin ที่เกือบไม่ได้มีชีวิตอยู่เห็นหน้าลูกสาว ชีวิตคาบเส้นอยู่ระหว่างความเป็นกับความตายก่อนลูกสาวจะครบกำหนดคลอดในอีก 2 สัปดาห์ จากการบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังที่มากเกินความจำเป็นติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน
 ภรรยาของเขา Brianna ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวสุดระทมทุกข์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ ลูกสาวเธอใกล้คลอด แต่สามีเธอเกือบตาย เธออยากให้เรื่องราวของเธอเป็นอุทาหรณ์แก่คนอื่นๆที่กังขาว่าเครื่องดื่มชูกำลังไม่เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย
"การตั้งครรภ์นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในการเดินทางที่น่าทึ่งที่สุดในชีวิต คุณกำลังสร้างชีวิตใหม่ คุณได้พบกับรักที่ไม่มีเงื่อนไขกับใครสักคนที่คุณยังไม่เห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ"

"แต่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเมื่อฉันตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง จะพบว่าโลกทั้งใบมันกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ"
 "ฉันรู้เพียงอย่างเดียวว่าสามีฉันอยู่ที่โรงพยาบาล แต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด และเมื่อมาถึงจึงได้รู้ว่า สามีของฉัน พ่อของลูกในท้องฉัน คนที่ฉันรักอย่างสุดซึ้งที่สุดในชีวิตเลือดออกในสมอง ทีมแพทย์ได้ข้อสรุปว่าเหตุเกิดมาจากที่สามีของฉันบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังในปริมาณที่มากเกินไป (มันคือกิจวัตรนิสัยของเขาที่เขาเพิ่งเป็นเมื่อต้องทำงานและเดินทางติดต่อกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง)"
"เขาต้องเข้ารับการผ่าตัด และในการผ่าตัดรอบที่ 2 เขามีผลข้างเคียงคือเส้นเลือดอุดตัน อาการชัก อาการบวมและอีกมากมาย ฉันนั่งข้างๆเตียงเขา สวดภาวนาขอให้เขาไม่เป็นอะไร และฉันจะไม่มีวันทิ้งเขา แม้ว่าชีวิตคู่ของเราทั้งสองจะยุ่งเหยิงเสียเพียงใด ฉันจะอยู่ข้างๆเขาเสมอ"

ด้วยอาการเลือดออกในสมองและการผ่าตัดหลายต่อหลายครั้ง เขามีหลุมที่ไม่สามารถแก้ไขได้ตรงส่วนหน้าของหัวกะโหลก และภรรยาใกล้ที่จะคลอดลูกคนแรกของพวกเขาแล้ว
 "และในขณะเดียวกันมันก็จวนถึงเวลาที่ฉันจะให้กำเนิดลูกคนแรกของเราแล้ว แม้ว่าเขาจะยังหลับใหลไม่ได้สติ และไม่รู้ว่าเขาจะรอดชีวิตหรือจากพวกเราไปก็ตาม"

"แต่ก็มีปาฏิหาริย์ที่สวยงามเกิดขึ้นขณะที่ฉันคลอดลูก Austin ตื่นขึ้นมา และเมื่อลูกอายุได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ฉันก็ไปหา Austin เพื่อบอกกับเขาว่าลูกของเราลืมตาดูโลกแล้ว เพื่อบอกกับเขาว่าพวกเราต้องการเขามากเพียงใด"

 "ผ่านไป 2 เดือน ลูกชายของฉันก็มีโอกาสได้พบหน้าพ่อของเขา วันนั้นช่างเป็นวันที่หัวใจฉันท่วมท้ม ปริ่มไปด้วยความสุขอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อมา Austin ก็สามารถกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้ ชีวิตของเขาไม่ปกติเอาซะเลย แต่พวกเราก็อยู่ด้วยกัน สู้ด้วยกัน"

 "เขาเปลี่ยนไป ไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่ฉันตกหลุมรักในวันนั้น แต่พวกเราก็ช่วยฟื้นฟูสภาพเขาในทุกๆด้าน เพื่อทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฉันจะไม่มีวันทิ้งเขา เพราะรักคือการคำนึงถึงผู้อื่นก่อน และฉันรักเขามากกว่าชีวิตของฉันเสียอีก"
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: Bored Panda,  Endres Photography









from:https://www.siamnews.com/view-8195.html